ความลับในธุรกิจที่ประสบความสำเร็จต้องมีอะไรบ้าง?
ผมได้ไปฟังคุณป็อป พลภัทร ผู้ก่อตั้ง บริษัท GetLinks ซึ่งเป็น HR Tech Startup ชื่อดัง เล่าว่ามันมีสูตรอยู่…
คุณจะสังเกตว่าในโลกธุรกิจจะมีคนเพียงแค่ 1 คนเท่านั้น ที่คิดแตกต่าง
หรือ ในห้องเรียน จะมีนักเรียนมียกมือถามอาจาร์ยตลอด
ยกตัวอย่างเช่น
Mark Zukerburg ผู้ก่อตั้งบริษัท Meta ที่ลาออกจากมหาลัยชื่อดัง มาทำโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มของตัวเอง ซึ่งครอบครัวของเขาก็คัดค้าน
Elon Musk ผู้ก่อตั้ง SpaceX ผู้ซึ่งเชื่อว่า เขาสามารถไปอยู่บนดาวอังคารได้ ทั้งที่ตอนนั้นคนหลายๆคนบอกว่าเขาต้องบ้าไปแล้ว
คุณท็อปจิรายุ ผู้ก่อสร้าง Bitkub ผู้ซึ่งไม่ยอมแพ้ ในการเปิดที่แลกเปลี่ยนทรัพย์สินดิจิดัลของประเทศไทยเป็นแห่งแรก ถึงแม้ว่าเสียงส่วนมากของประเทศจะมองว่าทรัพย์สินดิจิตอลนั้นเป็นแชร์ลูกโซ่ในตอนนั้น
สังเกตุไหมว่า ทั้ง 3 คนนั้น คิดแตกต่างจากคนหมู่มาก
คุณป็อปยกตัวอย่าง เจ้าตลาด (Category King) ในสายอาหาร เช่น
เจ๊จง - เป็นเจ้าตลาดแห่งหมูทอด
เจ๊โอว - เป็นเจ้าตลาดแห่งข้าวต้ม
เจ๊แดง - เป็นเจ้าตลาดของคอหมูย่าง
เห็นไหมครับว่าเจ๊ๆ ทั้งหลาย เขาเป็นเจ้าตลาดในด้านอาหารเยอะแยะเลย…ทั้งๆที่ มีคนขายหมูทอด ขายข้าวต้มเยอะแยะ แต่ทำไมเจ๊ทั้งหมาย ถึงเป็นเจ้าตลาดได้
แล้วคุณละ จะสร้างความแตกต่างได้อย่างไร?
ยกตัวอย่าง บริษัท Airbnb สิ่งแรกที่เขาทำ คือ การมองเห็นปัญหาของนักท่องเที่ยว ที่หาที่พักไม่ได้
เพราะฉะนั้น กลุ่มเป้าหมายของเค้าเคลียร์มากๆ คือ คนเดินทางหรือแบคแพคเกอร์
ลองนั่งคิดนะครับ ว่าแบคแพคเกอร์น่าตาของเขา เป็นยังไง
ไว้หนวดหรือไม่ไว้หนวด?
ถือกระเป๋าแบบแบคแพค หรือถือกระเป๋าแบบใส่เอกสาร?
เป็นวัยรุ่น หรือเป็นคนสูงอายุ?
เป็นคนชอบผจญภัยเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือเป็นคนชอบเก็บตัว?
ผมชื่อว่าคุณตอบได้แน่ครับว่าแบคแพคเกอร์นั้นเขาเป็นคนแบบไหน
ถ้าคุณยิ่งรู้ว่ารู้จักกลุ่มเป้าหมายของคุณชัดเจนมากเท่าไหร่ คุณจะสามารถหาตลาดของคุณได้ดีขึ้น
ปัญหาที่ Airbnb มองเห็น คือ คนที่มาเที่ยว เขาไม่ได้รับประสบการณ์ที่เหมือนกับคนที่อยู่ในประเทศนั้นๆ
Airbnb ก็เลยสร้างชุมชนที่ดูแลให้ที่อยู่และคนที่ให้ที่อยู่ เขาจะเรียกว่าเจ้าบ้าน หรือ Host ซึ่ง เจ้าบ้านจะเป็นคนถ่ายทอดวัฒนธรรมของประเทศๆ ยกตัวอย่างเช่น ตอนที่คุณป็อป ไปสิงคโปร์ ไปพักที่บ้านของคุณครูโยคะคนนึง ตอน 6 โมงเช้าครูโยคะก็จะปลุกให้เขาตื่นขึ้นมาแล้วก็มาเล่นโยคะกัน คุณคิดดูสิว่าคุณจะไปพักที่ไหนถึงสามารถเล่นโยคะไปด้วย แล้วบ้านครูโยคะจะไม่เปิดแอร์นะ เพราะว่าเขาเชื่อในเรื่องของระบบไหลเวียนลมโดยที่ไม่ใช้แอร์ ตามศาสตร์โยคะ
ความลับที่ไม่ลับของ Airbnb คือเขาสามารถหากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมากๆได้ แล้วแก้ไขปัญหากลุ่มเป้าหมายได้ถูกจุด
สุดท้าย Airbnb ก็สามารถเล่าเรื่องให้แตกต่างจากที่พักที่อื่นๆ นั่นคือ การสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ในประเทศนั้นๆ
สรุป:
การเล่าเรื่องที่ดีจะต้องแตกต่าง
อย่างแรก คือ คุณต้องรู้กลุ่มเป้าหมายอย่างลึกมากๆ ยิ่งลึกมากเท่าไหร่ คุณก็สามารถออกแบบธุรกิจของคุณได้อย่างประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
อย่างที่สอง ให้คุณหาปัญหาของเขา เช่น Airbnb หาปัญหาของแบคแพคเกอร์ว่าไม่ได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่เวลามาเที่ยว
เมื่อคุณสามารถแก้ไขปัญหาให้กลุ่มเป้าหมายของคุณได้ และสามารถเล่าปัญหาและเล่าว่าธุรกิจของคุณจะมาแก้ไขปัญหากับกลุ่มลูกค้าของคุณได้อย่างไร…เมื่อนั้นแหละ คุณก็จะเห็นความสำเร็จนั้นก็รอคุณอยู่ตรงหน้า